ถึงแม้ว่าตอนนี้จะเลยปีใหม่มานานนับเดือนแล้ว แต่อย่างไรก็ตามเราก็ยังคงต้องการที่จะให้ตัวเองมีโชคมากขึ้นกว่าเดิมอยู่ดี Lottosod96 จะมาแนะนำอาหารมงคลจากแต่ละประเทศทั่วทั้งโลกกันว่า ในแต่ละประเทศนั้นนิยมรับประทานอาหารอะไรบ้าง ที่สามารถทำให้มีโชคได้มากขึ้นกว่าเดิม สำหรับใครที่สนใจไปดูกันได้เลย
เปิดรายชื่ออาหารมงคลจากทุกประเทศทั่วโลก

ปลาทั้งตัว
เป็นอาหารมงคลจากประเทศจีนที่นิยมรับประทานกันในวันปีใหม่หรือในโอกาสสำคัญเพื่อเสริมดวง เนื่องจากคำว่าปลาในภาษาจีนนั้นมีการออกเสียงที่ใกล้เคียงกับคำที่มีความหมายว่า ความอุดมสมบูรณ์ ดังนั้นชาวจีนจึงรับประทานปลาทั้งตัวโดยที่ไม่หั่นออกเป็นชิ้นก่อนนำไปปรุง หลังจากรับประทานเข้าไปแล้วก็จะช่วยให้ชีวิตเต็มไปด้วยความอุดมสมบูรณ์ มีความร่ำรวยมั่งคั่ง นอกจากนี้ยังต้องกินให้เหลืออีกด้วยเพราะเชื่อว่าจะช่วยให้เรามีเงินเหลือใช้จ่ายไปตลอดทั้งปี

ซุปเค้กข้าวหรือซุปต็อกโบกี้
หากใครอยากโชคดีจะลองกินอาหารเกาหลีจานนี้ดูก็ได้เช่นเดียวกัน มันเป็นอาหารที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากในประเทศเกาหลีใต้โดยเฉพาะในช่วงปีใหม่ นอกจากนี้ยังนิยมรับประทานกันในช่วงเทศกาลไหว้พระจันทร์อีกด้วย เนื่องจากเชื่อว่าการรับประทานเมนูนี้จะทำให้มีอายุยืนยาวเพิ่มขึ้นอีกถึง 1 ปีเลยทีเดียว ซุปจะทำมาจากปลาแห้งหรือเนื้อ นำเอาไปเคี่ยวจนมีรสชาติเข้มข้นกลมกล่อม หลังจากนั้นก็นำเอาต็อกโบกี้ลงไปต้มจนสุกแล้วปรุงรสชาติตามความต้องการ รับประทานคู่กับกิมจิมีรสชาติที่ยอดเยี่ยมไม่น้อยเลยทีเดียว

โทชิโคชิ โซบะ
อาหารต้อนรับวันปีใหม่ของชาวญี่ปุ่นที่มีความเชื่อว่าหากรับประทานในวันที่ 31 ธันวาคมของทุกปี จะช่วยให้มีชีวิตที่ยืนยาวเหมือนกับเส้นโซบะที่ยาว นอกจากนี้ยังช่วยให้ชีวิตมีความราบรื่น ไม่ว่าจะทำอะไรก็ประสบความสำเร็จตามปรารถนา ต่อให้มีปัญหาหรืออุปสรรคเข้ามาก็จะคลี่คลายได้เหมือนกับเส้นโซบะที่มีความเหนียวนุ่ม นั่นเอง

เค้กสอดไส้เหรียญ
เป็นขนมที่ช่วยเพิ่มโชคได้เป็นอย่างดีในประเทศกรีซ พวกเขานิยมรับประทานเค้กดังกล่าวในช่วงวันปีใหม่เป็นอย่างมาก เนื่องจากเชื่อว่า หากใครที่กินเข้าไปแล้วก็จะมีโชคตลอดทั้งปี แถมยังมีเงินทองให้ใช้แบบไม่ขาดมืออีกด้วย เป็นเค้กที่มีการสอดไส้เหรียญเข้าไปข้างใน ส่วนใหญ่แล้วจะมีรสชาติหวานกลมกล่อม แต่ในบางร้านหรือบางบ้านก็มีการใส่ไส้พริกเข้าไปด้วย เพื่อช่วยเพิ่มความเผ็ดร้อนให้มากขึ้นกว่าเดิม นับว่าเป็นเมนูขนมที่มีความแปลกใหม่น่าสนใจไม่น้อยเลยทีเดียว

กะหล่ำปลี
เป็นผักที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากในประเทศไทย แถมมันยังเป็นสัญลักษณ์ของโชคในประเทศเยอรมนีอีกด้วย นั่นก็เป็นเพราะว่า กะหล่ำปลีนั้นเป็นตัวแทนของความอุดมสมบูรณ์ ชาวเยอรมันจึงมักจะนำเอาผักชนิดนี้มาประกอบอาหารรับประทานเป็นมื้อแรกหลังขึ้นปีใหม่อยู่เสมอ เชื่อว่าหากรับประทานเข้าไปแล้วก็จะมีความอุดมสมบูรณ์ ชีวิตจะมีแต่ความมั่งคั่งร่ำรวยเหมือนกับใบกะหล่ำปลีสีเขียว ที่เป็นสีเดียวกับธนบัตรในประเทศนั่นเอง

ถั่วเลนทิล
หากคุณอยากเพิ่มความเป็นสิริมงคลให้กับชีวิต ลองหาถั่วลักษณะกลมแบนที่มีหลากหลายสีสันจากประเทศอิตาลีสายพันธุ์นี้มารับประทานกัน ชาวอิตาเลียนนั้นนิยมรับประทานเมนูถั่วนี้เป็นอย่างมากโดยเฉพาะในช่วงปีใหม่ เพราะรูปร่างของมันคล้ายกับเหรียญ ดังนั้นจึงเชื่อว่าหากกินเข้าไปแล้วก็จะมีโชค แถมยังมีเงินทองไหลมาเทมาให้ใช้ไม่ขาดสายไปตลอดทั้งปีอีกด้วย จะนำเอามากินเล่นหรือทำเป็นซุปก็ได้เช่นเดียวกันตามความชื่นชอบ

โดนัท
เมนูขนมที่หลายคนชื่นชอบแถมยังช่วยให้คุณมีโชคได้มากกว่าเดิมอีกด้วยในประเทศเนเธอร์แลนด์ ในช่วงปีใหม่หรือเทศกาลคริสต์มาสมักจะมีการเสิร์ฟโดนัทแบบมีรูให้ทุกคนได้กินกัน เนื่องจากเชื่อว่ารูปร่างของขนมชนิดนี้ที่เป็นทรงวงแหวนนั้น บ่งบอกถึงความอุดมสมบูรณ์รวมไปถึงความมั่งคั่งที่จะช่วยให้คุณมีเงินใช้ไปตลอดทั้งปี

แชมเปญ
ใครเป็นสายมูเตลูและชื่นชอบเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เราขอแนะนำให้คุณได้ลองทำตามคนในประเทศรัสเซียเลย เพราะคนในประเทศนี้จะเขียนขอพรลงบนกระดาษ หลังจากนั้นพวกเขาก็จะจุดไฟเผาให้มันกลายเป็นขี้เถ้าในแก้วแชมเปญ หลังจากนั้นก็เพียงแค่รินแชมเปญเข้าไปและดื่มให้หมดก็เชื่อว่า พรที่เขียนเอาไว้ในกระดาษนั้นจะกลายเป็นเรื่องจริง โดยจะดื่มกันในช่วงคืนข้ามปีเป็นหลัก
อาหารมงคลประเทศไทยไม่แพ้ใครในโลก

อาหารมงคลในประเทศไทยเองก็มีเช่นเดียวกัน โดยเฉพาะขนมมงคล 9 อย่าง ที่เต็มไปด้วยขนมที่มีความหมายดีอย่างเช่น ขนมทองหยิบ เชื่อว่ากินแล้วจะทำให้ร่ำรวยเงินทองสมกับชื่อ ทองหยอดที่ช่วยให้มีเงินไม่จบสิ้น ฝอยทองที่เชื่อว่าจะช่วยให้ชีวิตยาวนานหรือครองรักกันไปยาวนาน เม็ดขนุนที่เชื่อว่าจะได้รับการอุปถัมภ์ค้ำชูจากผู้อื่น ทองเอกซึ่งช่วยให้มีความเจริญก้าวหน้าในหน้าที่การงาน ดาราทองที่เชื่อว่าจะได้เลื่อนขั้นเลื่อนตำแหน่ง ขนมเหล่านี้นอกจากจะนิยมรับประทานกันในช่วงปีใหม่แล้ว ยังนิยมใช้ในงานมงคลอีกด้วยอย่างเช่น งานแต่งงานหรืองานขึ้นบ้านใหม่ เป็นต้น